วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ผอ.พบเพื่อนครู

สวัสดีครับ พี่ น้อง เพื่อนครู ผู้บริหาร ที่เคารพ

              ในช่วงแห่งการปิดภาคเรียนนี้พี่น้องคงได้พักผ่อนหรือผ่อนคลายกันบ้างนะครับ แต่ก็ขอฝากท่านผู้อำนวยการทุกโรงเรียน ต้องกำชับเวรยามให้ปฏิบัติหน้าที่ ดูแลความปลอดภัย และทรัพย์สินต่าง ๆ ของโรงเรียนให้ดี เพราะจากเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่คงจะมีผู้คนอพยพกลับมาอยู่ที่บ้านหรืออาจมาอาศัยอยู่กับญาติพี่น้องที่บ้านเราซึ่งน้ำไม่ท่วมอาจมีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาด้วย และโดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่แถบลุ่มน้ำต่าง ๆ ก็อย่าได้วางใจ เตรียมป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดน้ำท่วมเหมือนปีที่ผ่านมา(ประมาณปลายเดือน ตุลาคม)  ที่สำคัญเมื่อเกิดเหตุการณ์ก็ขอให้รีบรายงาน สพป. ให้ทราบโดยด่วนด้วยนะครับ

                วันนี้ผมขอนำเรื่องสบาย ๆ มานำเสนอ ศาสตราจารย์นายแพทย์ วิทยา นาควัชระ ท่านให้ข้อคิดในการผ่อนคลาย ให้ชีวิตเรารู้สึกโล่งและเบาสบายอย่างน่าสนใจดังนี้  เรามาคุยกันถึงวิธีทำให้ชีวิตเบาขึ้น โล่งขึ้น สบายขึ้นดีไหม? วิธีทำให้ชีวิตโล่ง และ เบาขึ้น เช่น
                1. เก็บของที่ไม่ใช้ เลิกใช้ เอาไปบริจาคให้ผู้เดือดร้อน เช่น เสื้อผ้า รองเท้า เฟอร์นิเจอร์เก่าๆ อย่าไปเสียดายกับของที่ไม่ใช้แล้วเลย
                2. ลดงานที่เครียดๆ ลงบ้าง เช่นงานประชุมที่เอาจริงเอาจังงานที่แข่งขันและหวังผลสูงถ้าเลือกได้ ลาออกจากการเป็นกรรมการอะไรต่อมิอะไรเสียบ้างก็ได้บรรยากาศของการประชุมมักจะเครียดเสมอสารความเครียดก็หลั่งตลอดเวลา...รู้ไหม?
               3. เลือกไปงานที่สำคัญและควรจะไปเท่านั้น ไม่เช่นนั้น เราจะไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย
               4. อ่านหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารให้น้อยลง โดยเฉพาะข่าวอาชญากรรมหรือข่าวเครียดๆที่ซ้ำกันทุกวัน
              5. เลิกดูรายการทีวี.ที่เครียด หรือรายการข่าวหนักๆ ที่ซ้ำๆ กันทุกวัน เช่น รายการที่มีพิธีกรมานั่งเถียงกัน พูดแข่ง พูดแซวกัน 2-3 คนดูไปฟังไฟแทนที่จะสบายใจกลับเครียดมากขึ้น น่าเบื่อด้วยซ้ำ
             6. อย่ารับปากหรือสัญญาว่าจะทำอะไรให้ใครๆ ง่ายๆ ด้วยความเกรงใจเลยหัดปฏิเสธให้เป็น
             7. อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงคนอื่นเลย ทำได้ยากมากจะทำให้เราจมปลักอยู่กับความผิดหวังในตัวคนอื่น และเกลียดชังสังคมรอบตัว พยายามรักคนอื่น และยอมรับเขาตามความเป็นจริงเถิด ถ้ารักไม่ลง ก็มองข้ามเขาไป และลดความคาดหวังในตัวเขาลงด้วย เมื่อเวลาผ่านไป เราหันไปมองเขาใหม่ เราจะเข้าใจยอมรับและรักเขาตามความเป็นจริงได้มากขึ้น
             8. หัดไปไหนมาไหนคน เดียว เป็นเพื่อนตนเองได้จะลดขั้นตอนและความยุ่งยากใจ เวลา จะต้องทำอะไรหรือไปไหนได้มากขึ้น
            9. ลดความบ้างาน บ้าเงิน บ้าอำนาจ บ้าเกียรติยศชื่อเสียงลงบ้างจะทำให้คุณไ ม่ เครียดกับการเฆี่ยนตัวเองให้ทำงานหนัก และแข่งขันกับคนรอบข้างตลอดเวลาจนลืมสร้างมิตรและไม่เคยพอใจตัวเองเลยไม่ว่าจะได้มามากเท่าไร
           10. ถ้าจะรักใครสักคน อย่าหลงรักเขาทั้งหมดของชีวิตและอย่าเข้าไปก้าวก่ายชีวิต เขาด้วย จงคิดเพียงจะอยู่ข้างๆ เขาก็พอแล้ว การรักแบบนี้จะทำให้รักกันได้นานๆ
           11. ลองแบ่งเวลาวันละ 1 ชั่วโมง ล้างจิตใต้สำนึกที่ไม่ดีออกไปให้หมด
ลองทำดูตามที่แนะนำมานะครับ เราจะรู้สึกว่าชีวิตโล่งและเบามากขึ้น เหมือนใส่เสื้อผ้าหลวมๆ ไม่คับแคบ หรือรัดรึง อึดอัด เวลาตัวเองเบาๆ ใจสบายๆ ความคล่องตัวจะมีมากขึ้น จนคุณแปลกใจตัวเอง.

            แถมท้ายขอฝากอีสักเรื่อง เมื่อเราผ่อนคลาย ทำชีวิตให้เบาสบายแล้ว ก่อนที่เราจะต้องลุยงานหนักกันอีกก็ต้องสร้างกำลังใจให้แก่ตัวเอง เรื่องนี้ คุณสิริลักษณ์ ตันสิริ ได้ให้ข้อคิดน่าสนใจดังนี้ “ไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร แต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป และต้องดำเนินต่ออย่างดีด้วย
การสร้างกำลังใจที่จะทำให้รู้สึกถึงความมีชีวิตชีวาในการดำเนินชีวิตอย่างเปี่ยมสุข ด้วยการปฏิบัติง่ายๆ ว่าด้วยเรื่อง "5 อ." ที่ต้องให้ความสำคัญคือ 1.อากาศ 2.อาหาร 3.อารมณ์ 4.อุจจาระ และ 5.ออกกำลังกาย  แต่... "อ." ที่สำคัญมากๆ และไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง คือ "อารมณ์" คุณภาพชีวิตของเรา คือ คุณภาพของอารมณ์ที่มีในแต่ละวัน ส่วนวิธีปฏิบัติให้มีอารมณ์และมีกำลังใจที่ดีทำได้ง่ายๆ ดังนี้

               1.คิดถึงแต่เรื่องที่ดีๆ มองทุกอย่างในแง่บวก เวลาที่ได้รับสิ่งที่ไม่ชอบใจ ให้นึกถึงว่ายังมีคนได้รับอะไรที่แย่กว่าเราอีก หรือคิดว่าสิ่งที่เราได้รับอยู่นี้อาจจะโชคดีอยู่แล้วก็ได้ ลองคิดดูว่าถ้าได้รับอะไรที่แย่กว่านี้ เราจะเลือกเอาแบบไหน?

              2.พูดคำว่า "โชคดี" บ่อยๆ ถึงแม้จะมีบางอย่างในชีวิตไม่ดีบ้าง แต่ก็ให้พยายามคิดในแง่ดีเสมอ
              3.พูดคำว่า "ขอบคุณ" บ่อยๆ เช่นกัน ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาให้พูดว่า "ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ต่อวีซ่าให้ฉันอีก 1 วัน เย้!" "ขอบคุณหัวใจของฉันที่ไม่เคยหยุดเต้นแม้แต่สักวินาทีเดียว!" ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่เราระลึกถึงได้
              4.ยอมรับในทุกสิ่ง ทำใจให้สบาย อย่าไปคาดหวังว่าอะไรจะต้องเป็นอะไร ถ้าเราไม่คาดหวังใจของเราก็จะไม่เป็นทุกข์
               5.ทำสมาธิให้จิตใจผ่องใส เบิกบาน สงบเย็น ความสุขสงบในใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ทุกๆ วันขอให้จัดเวลาที่จะนั่งเงียบๆ ทำสมาธิ หรือฟังเพลงเบาๆ ผ่อนคลายให้มากที่สุด นึกถึงแต่เรื่องดีๆ เรียกความทรงจำดีๆกลับมาสัมผัสอีกครั้ง แต่ระวังอย่าให้เกิดความอาลัยอาวรณ์แล้วเป็นทุกข์เด็ดขาด

                         รู้เช่นนี้แล้วมาเริ่มสร้างกำลังใจให้ตัวเองกันดีกว่า
นะครับ

2 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ มีประโยชน์มากเลย

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ถ้าผมเชื่อท่านแล้ว..ผมจะได้เป็น ผอ.เขต เฉกเช่นเดียวกับท่านใหมครับ