วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ผอ.พบเพื่อนครู


สวัสดีครับ  พี่ น้อง เพื่อนครู ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษา ที่เคารพทุกท่าน 

         เปิดเทอมใหม่ปีการศึกษา ๒๕๕๔  ได้เริ่มขึ้นแล้ว  การเริ่มต้นงานในปีการศึกษาใหม่นี้คงต้องมีอะไรที่จะต้องคิดทบทวนเพื่อสานกระบวนงานของเราให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของนักเรียนที่เรารับผิดชอบให้เป็น คนเก่ง คนดี มีความสุข  ซึ่งก็ไม่ง่ายนักหรอกแต่ก็ไม่ยากเกินกำลังครูมืออาชีพมิใช่หรือ จึงขอให้ทุกท่านได้เริ่มต้นงานในปีการศึกษาใหม่นี้โดยการสานต่อภาระงาน นโยบาย จุดเน้น ที่ได้ทำมาในปีการศึกษา ๒๕๕๓ ดังนี้

๑.     จุดเน้นการพัฒนาผู้เรียน ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการดำเนินการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน วันที่ ๒๒ ตุลาคม  ๒๕๕๓ ประกอบด้วย

๑)     ด้านความสามารถและทักษะของผู้เรียน ชั้น ป. ๑ – ๓ มีความสามารถอ่านออก เขียนได้ มีทักษะการคิดขั้นพื้นฐาน ทักษะชีวิตและทักษะการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ตามช่วงวัย  ชั้น ป. ๔ – ๖ มีความสามารถอ่านคล่อง เขียนคล่อง คิดเลขคล่อง มีทักษะการคิดขั้นพื้นฐาน ทักษะชีวิตและทักษะการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ตามช่วงวัย  ชั้น ม. ๑ – ๓ มีความสารถในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ มีทักษะการคิดขั้นสูง ทักษะชีวิตและทักษะการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ตามช่วงวัย

๒)   ด้านคุณลักษณะของผู้เรียน มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะของความเป็นพลเมืองที่มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามหลักสูตรฯ และมีนิสัยตามพัฒนาการของแต่ละช่วงวัย ได้แก่ เป็นผู้ใฝ่ดี ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการศึกษาและการทำงาน

๒.   เพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จากการทดสอบทางการศึกษาระดับต่าง ๆ ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่านักเรียนของเราสอบตก เพราะผลการประเมินไม่ว่าจะเป็น  O – NET , NT , LAS คะแนนยังไม่ถึงร้อยละ ๕๐ ซ้ำยังลดลงจากปีการศึกษาที่ผ่าน ๆ มาอย่างต่อเนื่อง เป็นเพราะสาเหตุใด จะมีแนวทางในการพัฒนาอย่างไร ทุกคนต้องคิดทบทวน คิดไตร่ตรอง และช่วยกันแก้ไขอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง

๓.    การพัฒนาวิชาชีพทางการศึกษา  ไม่ว่าจะเป็นครู ผู้บริหาร หรือบุคลากรทางการศึกษา ที่ถูกกำหนดให้ผู้ที่จะมาประกอบวิชาชีพนี้ต้องได้รับอนุญาต ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ ซึ่งถือว่าเป็นวิชาชีพชั้นสูง ดังนั้นผู้ประกอบวิชาชีพดังกล่าวต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ให้เป็นไปตามข้อกำหนดในมาตรฐานวิชาชีพ และจรรยาบรรณวิชาชีพ

สุดท้ายนี้อยากให้พี่น้องเพื่อครู ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาที่เคารพรักทุกท่านจงมีพลังและกำลังใจในการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามปณิธานที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาของเรากำหนดขึ้นที่ว่า “มุ่งมั่นคุณภาพ สู่มาตรฐานสากล” และช่วยกันสร้างวัฒนธรรมในการทำงานด้วยความ รอบรู้  รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และมีความโปร่งใส” ด้วยการบริหารตนเองโดยการบริหารเวลาการทำงาน

หลักในการบริหารเวลาของคนเป็นครู
เวลาเป็นทรัพยากรที่มีค่ายิ่งของทุกคน ทุกคนได้รับทรัพยากรเวลาเท่ากัน หากแต่ละคนได้ใช้เวลาให้เกิดคุณค่าแก่ตนเองไม่เท่ากัน ในหนึ่งวัน หนึ่งชั่วโมง บางคนได้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์เป็นเงินล้าน บางคนได้เป็นเงินพัน บางคนสร้างความรู้ให้ตนเองได้เต็มอิ่ม บางคนไม่ได้อะไรเลย เหล่านี้เป็นเรื่องของการบริหารจัดการของแต่ละคนที่จะใช้เวลาที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในส่วนของผู้เขียนที่ได้ปฏิบัติงานในฐานะหัวหน้าหน่วยงาน มีการงานที่จะต้องปฏิบัติค่อนข้างมาก มีสังคมที่จะต้องดูแลอยู่ไม่น้อยได้ใช้ประสบการณ์ในการบริหารเวลาให้เกิดคุณค่าแก่ภารกิจหน้าที่ สังคม บุคคลแวดล้อม และตนเองให้อยู่ได้มีความสุขในระดับหนึ่ง ซึ่งจะได้นำเสนอเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์

ได้ยึดถือหลักการเบื้องต้น 3 ประการ คือ
หลักของความสมดุล กล่าวคือ การทำงานของคนจะต้องประกอบด้วยสามส่วน คือ ด้านการทำงาน ด้านบุคคล สังคม และด้านส่วนตัว การจัดการเวลา จะต้องให้มีความสมดุลกันทั้งสามส่วนจึงจะไปได้ดี
หลักของความยืดหยุ่น หมายความว่าการจัดการเรื่องเวลาให้กับแต่ละด้านหรือแต่ละเรื่องจะต้องให้มีความยืดหยุ่นได้บ้างในบางโอกาส มิฉะนั้นจะก่อให้เกิดความเครียดในการปฏิบัติ เช่น วางแผนเรื่องที่จะต้องบรรยายให้ได้แล้วเสร็จภายใน 30 นาที แต่เมื่อบรรยาแล้ว ข้อสรุป ความยังไม่กระชับก็ควรที่จะต่อได้บ้าง แต่มิใช่ว่าเรื่องที่เตรียมมายังไม่หมดจะต้องต่อเวลาคงมิใช่
หลักของความสำเร็จ หมายความว่า การบริหารจัดการจะต้องคิดว่าจะทำอย่างไรโดยใครก็ได้แต่ให้การงานสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นใช้ได้มิใช่ว่าจะต้องโดยเราเท่านั้นเสมอไป
 จากหลักการที่กล่าวมาข้างต้นพอที่จะกำหนดเป็นวิธีการบริหารจัดการเวลาให้เกิดคุณประโยชน์สูงสุดได้ ดังนี้

  ๑.  จัดลำดับความสำคัญของงานว่างานอะไรมีความสำคัญกว่ากัน เพราะมีบางงานที่ด่วนแต่มีความสำคัญน้อยก็เป็นได้ งานที่ไม่สำเร็จในเวลาที่กำหนดจะก่อให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างหรือเสียหายระยะยาว หรืองานที่ทำแล้วจะได้ผลในวงกว้างหรือได้ผลในระยะยาวกว่า เป็นต้น ต้องทำก่อน
๒.  จัดความสัมพันธ์ของงาน และเวลาให้สอดคล้องกัน จะทำให้ใช้เวลาได้ประโยชน์มากกว่า เช่น งานที่จะต้องใช้ความคิดและสมาธิ อาจจะใช้เวลาหลับตอนค่ำแล้วตื่นขึ้นมาทำตอนดึก ก็น่าจะดีกว่า เป็นต้น
๓.  จัดทำปฏิทินปฏิบัติงาน เป็นการรวบรวมภารกิจว่าจะมีงานอะไรบ้าง เมื่อไร เพื่อจะได้ปฏิบัติงานได้เมื่อถึงเวลา ไม่ผิดนัด เสียงาน และมีเวลาเตรียมการสำหรับปฏิบัติงานดังกล่าวได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
๔.  จัดจำแนกงานว่ามีอะไรที่สามารถให้บุคคลอื่นทำแทนได้บ้าง ให้เขาไปทำให้จะช่วยให้การงานตกอยู่ที่เราลดน้อยลงไปได้ และความสำเร็จของงานก็จะได้มีจำนวนเพิ่มขึ้นด้วย ให้พยายามฝึกมอบหมายงานเข้าไว้จะได้ชินงานมากกว่า
๕.  จัดวางแผนเส้นทางการทำงานให้เป็นระบบ เช่น สัปดาห์นี้จะล่องใต้ ก็จัดเตรียมการงานที่จะไปประสานทางใต้หลายๆ เรื่องไว้ในคราวเดียวกัน เป็นต้น
๖.  จัดทำตารางการทำงาน เป็นการกำหนดภารกิจและเวลาของการทำงานว่าจะทำอะไรบ้าง ช่วงไหนจะทำให้งานไม่ขาดตอน สามารถวางแผน ระดมทรัพยากรมาทำงานให้ได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ได้ดีอีกวิธีหนึ่ง โดยเฉพาะงานโครงการใหญ่ๆ ที่มีหลายกิจกรรมซ้อนๆ กัน
๗.  จัดมอบอำนาจการตัดสินใจ เป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยให้งานไม่เข้ามาที่เรามากนัก โดยกำหนดภารกิจให้ผู้รับมอบหมายได้ตัดสินใจแทนเราในระดับหนึ่งจะเป็นผลต่อเนื่องให้เขามีความรู้สึกรับผิดชอบในงานยิ่งขึ้น
จากที่กล่าวมานี้พอที่จะมองเห็นได้ว่าเวลามีจำนวนจำกัด การที่คนเราจะใช้ไปให้คุ้มค่าเกิดประโยชน์กับเรามากเท่าไรนั้น การจัดการย่อมเป็นสิ่งสำคัญหลักและวิธีการที่นำมาเสนอเชื่อว่าพอที่จะทำให้ท่านมองเห็นภาพในระดับหนึ่ง สิ่งที่สำคัญคือ จะต้องให้มีความสมดุลทั้งงาน สังคม และส่วนตัวจึงจะดีที่สุด.

สวัสดี

5 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณท่านผอ.เขตฯ
เป็นข้อคิดและเป็นประโยชน์สูงสุด

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ท่านผอ. เมื่อไรจะพิจารณาการโอนย้ายนะ ที่อื่นเขาพิจารณาแล้วท่าน.............

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เร็ว ๆ นี้ละครับ ที่ช้านไปนิดก็รอการตัดโอนตำแหน่งที่เกษียณจากเขตอื่นด้วย...

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เรียน ผู้อำนวยการ สพป.บร.4
ข้าพเจ้าขอเรียนแจ้งว่า มีข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอสตึก นำนักเรียนไปเดินแจกใบปลิวของผู้สมัคร ส.ส. พรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งข้าพเจ้าเห็นแล้วรู้สึกว่าไม่สมควรอย่างยิ่ง เป็นถึงข้าราชการครูแต่วางตัวไม่เป็นกลาง

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เรียนท่านผอ.เขตฯ ถ้าผู้บริหารโรงเรียนได้กระทำการหลอกหลวง และให้ข้อมูลเท็จเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายและความเข้าใจผิด ทำให้สถาบันครอบครัวได้รับผลกระทบและเกิดความอับอาย ท่านผอ.เขตฯ จะกระทำอย่างไรกับบุคคลผู้นี้ ช่วยตอบให้หายข้องใจที ขอบพระคุณอย่างสูง