การปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง สร้างคนไทยเป็นพลโลกที่มีคุณภาพ
ในระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม - 7 สิงหาคม 2553 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 ของเรา ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ได้จัดให้มีการอบรมพัฒนาศักยภาพผู้บริหารสถานศึกษา (ผู้อำนวยการโรงเรียนและรองผู้อำนวยการโรงเรียน) ณ โรงแรมเทพนคร อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดยแบ่งเป็น 2 รุ่น ตามโครงการพัฒนาครูและผู้บริหารสถานศึกษา ภายใตแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง (SP2) เนื้อหาหลักสูตรทั้ง 9 Module เน้นการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สองที่ได้กำหนดเป้าหมายไว้ ๔ เรื่องใหญ่เพื่อพัฒนาคุณภาพของคนไทย ดังนี้
เรื่องที่ ๑ คนไทยและการศึกษาไทยมีคุณภาพและได้มาตรฐานระดับสากล ซึ่งได้กำหนดตัวบ่งชี้และวางเป้าหมายไว้ใน ๖ เรื่อง ดังนี้
๑.๑ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในวิชาหลักจากการทดสอบ ระดับชาติ มีคะแนนเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ ๕๐
๑.๒ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยนานาชาติ (ผลทดสอบ PISA)
๑.๓ความสามารถด้านภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นร้อยละ ๓ ต่อปี
๑.๔ทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ ๓ ต่อปี
๑.๕สัดส่วนผู้เรียนมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทอาชีวศึกษา :สามัญศึกษาเป็น ๖๐: ๔๐
๑.๖ผู้สำเร็จอาชีวศึกษาและอุดมศึกษามีคุณภาพระดับสากล และเป็นไปตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิ
เรื่องที่ ๒ คนไทยใฝ่รู้ : สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง รักการอ่าน และแสวงหาความรู้อย่างต่อเนื่อง โดยวางเป้าหมายใน ๖ เรื่อง คือ
๒.๑ผู้เรียนทุกระดับการศึกษาร้อยละ ๗๕ มีทักษะในการแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเองรักการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
๒.๒ อัตราการรู้หนังสือของประชากร(อายุ ๑๕-๖๐ ปี) เป็นร้อยละ๑๐๐
๒.๓ ผู้เข้ารับการบริการในแหล่งเรียนรู้เพิ่มขึ้นปีละอย่างน้อยร้อยละ ๑๐
๒.๔ คนไทยใช้เวลาอ่านหนังสือนอกเวลาเรียน/นอกเวลาทำงาน โดยเฉลี่ยอย่างน้อยวันละ ๖๐ นาที
๒.๕ สัดส่วนผู้ที่ใช้อินเทอร์เน็ตต่อประชากรอายุ ๑๐ ปีขึ้นไปเป็นร้อยละ ๕๐
๒.๖ จำนวนปีการศึกษาเฉลี่ยของคนไทย(อายุ ๑๕-๕๙ ปี) เพิ่มขึ้นเป็น ๑๒ ปี
เรื่องที่ ๓ คนไทยใฝ่ดี : มีคุณธรรมพื้นฐานมีจิตสำนึกและค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม มีจิตสาธารณะ มีวัฒนธรรมประชาธิปไตย ซึ่งได้กำหนดตัวบ่งชี้และวางเป้าหมายในการดำเนินการไว้ ๕ เรื่อง ได้แก่
๓.๑ ผู้เรียนทุกระดับการศึกษาไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๗๕ มีคุณธรรมจริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์
๓.๒ จำนวนคดีเด็ก และเยาวชนที่ถูกดำเนินคดีโดยสถานพินิจฯลดลงร้อยละ ๑๐ ต่อปี
๓.๓ จำนวนเด็กอายุต่ำกว่า๑๕ ปี ที่ตั้งครรภ์ลดลงร้อยละ ๑๐ ต่อปี
๓.๔ จำนวนเด็กขอรับการบำบัดยาเสพติดลดลงร้อยละ ๑๐ ต่อปีและ
๓.๕ สัดส่วนคนไทยที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนาและกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและสังคมอย่างสม่ำเสมอเพิ่มขึ้นร้อยละ ๕ ต่อปี
เรื่องที่ ๔ คนไทยคิดเป็น ทำเป็นแก้ปัญหาได้ มีทักษะในการคิดและปฏิบัติ มีความสามารถในการแก้ปัญหา มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มีความสามารถในการสื่อสาร โดยได้กำหนดตัวบ่งชี้และวางเป้าหมายสำหรับการดำเนินการไว้ ๓ เรื่องได้แก่
๔.๑ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์สังเคราะห์ มีวิจารณญาณ มีความคิดสร้างสรรค์ไม่ต่ำกว่าร้อยละ๗๕
๔.๒ ผู้สำเร็จการอาชีวศึกษาและการอุดมศึกษา มีสมรรถนะเป็นที่พึงพอใจของผู้ใช้และมีงานทำภายใน ๑ ปี รวมทั้งประกอบอาชีพอิสระเพิ่มขึ้น
๔.๓ กำลังแรงงานที่มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาขึ้นไป เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ ๖๕ และมีสมรรถนะทางวิชาชีพตามมาตรฐานกลไกขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาสู่ความสำเร็จ
จากการประเมินการอบรมพบว่าผู้บริหารสถานศึกษาให้ความสำคัญและตั้งใจเข้ารับการอบรมอย่างดียิ่ง หลังจากการอบรมแล้วเชื่อมั่นว่าผู้บริหารโรงเรียนทุกโรงเรียนต้องเริ่มปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการบริหารงาน โดยเฉพาะการจัดทำแผนกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสภาพของท้องถิ่น วัสัยทัศน์ และคำขวัญหรือปรัชญาของโรงเรียน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ดีขึ้น ซึ่งหากการศึกษาไทยไม่ปรับกระบวนแนวคิดการบริหารจัดการ และการเรียนการสอนใหม่ จะเป็นผลเสียต่อการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของคนรุ่นใหม่ของไทย ซึ่งหมายรวมไปถึงการพัฒนาประเทศในอนาคตด้วย.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น